แบบทดสอบ

1. ข้อใดหมายถึง การบัญชี

A. การจดบันทึกและการจัดหมวดหมู่ B. การจัดหมวดหมู่และการสรุปผล C. การสรุปผลและการตีความ D. ข้อ ก. และ ค. ถูก

2. ข้อใดหมายถึงงวดบัญชี

A. ระยะเวลาตามปีปฏิทิน B. ระยะเวลาที่กําหนดเมื่อล้มเลิกกิจการ C. ระยะเวลาที่กําหนดเพื่อทําการรายงานผลการดําเนินงานของกิจการ D. ระยะเวลาจาก 1 ตุลาคม ของปีหนึ่งปีใด ถึง 30 กันยายน ของปีถัดไป

3. ข้อสมมุติฐาน เรื่องความเป็นหน่วยงาน คือข้อใดต่อไปนี

A. กิจการเจ้าของคนเดียวแยกต่างจากห้างหุ้นส่วน B. กิจการเป็นหน่วยงานแยกเป็นอิสระจากเจ้าของกิจการ C. กิจการห้างหุ้นส่วนเท่านั้นที่จะมีลักษณะเป็นหน่วยงาน D. กิจการบริษัทจํากัดเท่านั้นที่จะมีลักษณะเป็นหน่วยงาน

4. ข้อใดหมายถึงวัตถุประสงค์ของการบัญชี

A. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถทําบัญชีได้ B. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถคิดดอกเบี้ยได้ C. เพื่อให้บันทึกรายการค้าตามหมวดบัญชีได้ D. เพื่อจดบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้น เรียงตามลําดับก่อนหลังและจําแนกประเภทของรายการค้าไว้อย่างถูกต้อง

5. ผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลทางการบัญชี คือบุคคลต่อไปนี้ยกเว้นข้อใด

A. ผู้ลงทุน B. ผู้บริหาร C. เจ้าหนี้ D. ลูกหนี้

6. ประเภทของธุรกิจแบ่งตามรูปแบบของการประกอบการ คือกิจการใด

A. ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนจํากัด B. เจ้าของคนเดียว ห้างหุ้นส่วน C. เจ้าของคนเดียว ห้างหุ้นส่วน บริษัทจํากัด D. เจ้าของคนเดียว บริษัทเอกชน บริษัทมหาชนจํากัด

7. ชื่อของสินทรัพย์ทั้งหมดคือข้อต่อไปนี้ยกเว้นข้อใด

A. เงินสด ลูกหนี้ สินค้า วัสดุสํานักงาน B. ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง C. ตั๋วรับเงิน ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร ค่าความนิยม D. เจ้าหนี้ เงินกู้ ตั๋วเงินจ่าย ค่าเช่าค้างจ่าย

8. การลงบัญชีด้านเครดิตเกิดจากรายการที่ทําให้อะไรเปลี่ยนแปลง

A. สินทรัพย์เพิ่ม หนี้สินเพิ่ม ส่วนของเจ้าของเพิ่ม B. สินทรัพย์ลด หนี้สินเพิ่ม ส่วนของเจ้าของเพิ่ม C. สินทรัพย์เพิ่ม หนี้สินลด ส่วนของเจ้าของเพิ่ม D. สินทรัพย์เพิ่ม หนี้สินลด ส่วนของเจ้าของลด

9. การลงบัญชีด้านเดบิต เกิดจากรายการที่ทําให้อะไรเปลี่ยนแปลง

A. สินทรัพย์เพิ่ม หนี้สินเพิ่ม ส่วนของเจ้าของเพิ่ม B. สินทรัพย์ลด หนี้สินเพิ่ม ส่วนของเจ้าของเพิ่ม C. สินทรัพย์เพิ่ม หนี้สินลด ส่วนของเจ้าของเพิ่ม D. สินทรัพย์เพิ่ม หนี้สินลด ส่วนของเจ้าของลด

10. ข้อใดไม่ใช่การจดบันทึกสมุดรายวันทั่วไป

A. อ้างอิงถึงเลขที่บัญชีมีเดบิต และเครดิต B. เขียนชื่อบัญชีที่มีเดบิต และจํานวนเงินก่อนบัญชีที่เครดิต C. เขียนคําอธิบายรายการที่เกิดขึ้นและขีดเส้นคั่นรายการ D. รวมยอดช่องจํานวนเงินเดบิต และจํานวนเงินเครดิต

11. ช่องรายการของบัญชีแยกประเภทที่ผ่านบัญชีจากสมุดรายวันทั่วไปจะใช้บันทึกข้อความต่อไปนี้ ยกเว้นข้อความใด

A. ยอดยกมา B. สมุดรายวัน C. ชื่อบัญชีตรงข้าม D. ยอดยกไป

12. ถ้ามีกําไรสุทธิ 5,500 บาท และมีถอนใช้ส่วนตัว 6,000 บาท ต้องการปิดบัญชีถอนใช้ส่วนตัวทําอย่างไร (ปิดบัญชีโดยไม่ผ่านบัญชีถอนใช้ส่วนตัว)

A. เดบิต ทุน 6,000 บาท เครดิต ถอนใช้ส่วนตัว 6,000 บาท B. เดบิต ทุน 500 บาท เครดิต ถอนใช้ส่วนตัว 500 บาท C. เดบิต ถอนใช้ส่วนตัว 6,000 บาท เครดิต กําไรขาดทุน 500 บาท D. เดบิต ถอนใช้ส่วนตัว 500 บาท เครดิต กําไรขาดทุน 500 บาท

13. บัญชีที่มียอดดุลด้านเดบิต คือข้อใด

A. เจ้าหนี้ ทุน เงินกู้ B. เงินสด ลูกหนี้ ถอนใช้ส่วนตัว C. ดอกเบี้ยรับ ตั๋วเงินจ่าย ถอนใช้ส่วนตัว D. ทุน ดอกเบี้ยรับ รายได้ค่าเช่า

14. ขาดทุนสุทธิที่แสดงในงบกําไรขาดทุนเป็นผลมาจากอะไร

A. ยอดรวมจํานวนเงินค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้ B. ยอดรวมสินทรัพย์น้อยกว่าหนี้สินและทุน C. จํานวนรายการรายได้มากกว่ารายการค่าใช้จ่าย D. ยอดรวมจํานวนเงินรายได้น้อยกว่ายอดรวมจํานวนเงินค่าใช้จ่าย

15. บัญชีที่อยู่ในงบทดลองหลังปิดบัญชีคืออะไรบ้าง

A. สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน B. สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน ถอนใช้ส่วนตัว C. สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน รายได้ ค่าใช้จ่าย D. สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน ถอนใช้ส่วนตัว รายได้ค่าใช้จ่าย

16. งบดุลของกิจการค้า จะแสดงถึง

A. ผลการดำเนินงานในงวดหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า B. ฐานะการเงินของกิจการค้า ณ วันใดวันหนึ่ง C. สินทรัพย์หนี้สินและทุนในรอบระยะเวลาหนึ่ง ๆ กิจการค้า D. ส่วนของเจ้าของ ณ วันใดวันหนึ่ง

17. งบกำไรขาดทุนของกิจการค้า แสดงถึง

A. ผลการดำเนินงานในรอบระยะเวลาการดำเนินงานหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า B. ฐานะการเงินของกิจการค้า ณ วันใดวันหนึ่ง C. ผลการดำเนินงานกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ณ วันสิ้นปี D. การเปรียบเทียบระหว่างรายได้และรายจ่ายในแต่ละปี

18. กิจการจะบันทึกรายการทางด้านเดบิตเมื่อใด

A. สินทรัพย์เพิ่ม, ค่าใช้จ่ายลด, หนี้สินและทุนลด B. สินทรัพย์และค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนหนี้สิน ทุนและรายได้ลด C. สินทรัพย์และรายได้เพิ่ม ส่วนหนี้สิน ทุนและค่าใช้จ่ายลด D. สินทรัพย์และหนี้สินเพิ่ม ส่วนทุนและรายได้ ค่าใช้จ่ายลด

19. หลักการของระบบบัญชีคู่คือ

A. การจดบันทึกรายการค้าลงในสมุดรายการขั้นต้น B. การจดบันทึกรายการค้าลงในบัญชีแยกประเภท C. การจดบันทึกรายการค้าทุกรายการจะต้องบันทึกในบัญซึไม่น้อยกว่าสองบัญชีด้วยจำนวนเงินด้านเดบิตและเครดิตเท่ากัน D. การจดบันทึกรายการค้าต้องบันทึกทั้งสองด้าน คือด้านเดบิตและด้านเครดิต

20. เมื่อเจ้าของนำสินทรัพย์พย์มาลงทุนจะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ

A. ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น B. ทำให้สินทรัพย์ลดลงและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น C. ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและหนี้สินลดลง D. ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของลดลง